อุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่งในการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาแม่ ก็คือ การนึกคำศัพท์ที่เหมาะสมไม่ออก หรือแปลความหมายของคำศัพท์ที่พบไม่ได้ เพราะ ถึงจะรู้หลักแกรมม่าแน่นปึ๊ก แต่คำศัพท์ไม่ได้ ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน แล้วทีนี้จะทำอย่างไรกันดี ถึงจะจำคำศัพท์ได้แม่นแบบ ติดแน่นฝังลึกอยู่ในสมองของเรา เคล็ดลับมีอยู่ 6 ประการ ก็คือ
1. ขยันอ่านภาษาอังกฤษ
อ่านมันให้หมด อะไรที่เป็นภาษาอังกฤษ อ่านได้หมด ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ บทความ เว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร การ์ตูน ใบปลิว ป้ายโฆษณา ไปจนกระทั่งรอยจารึกข้างกำแพงห้องน้ำ (ถ้าคนมือบอนเขียนเป็นภาษาอังกฤษนะ) เรียกได้ว่าขยันอ่านอะไรที่มันเป็นภาษาอังกฤษไปเรื่อยๆ
อาจเกิดคำถามว่า จะอ่านไปให้มันได้อะไร ถ้ามันไม่รู้ความหมาย คำตอบคือ ได้ความคุ้นเคย ยิ่งอ่านมากก็จะยิ่งเจอคำศัพท์มาก เจอคำศัพท์ที่เราเคยเจอมา แล้วบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดคุ้นเคยกับศัพท์คำนั้น (ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ความหมายนั่นหล่ะ) จนเมื่อวันหนึ่งเรารู้ความหมายของ ศัพท์คำนั้น ไม่ว่าจะด้วยการเดาจากความหมายโดยรวมของประโยค หรือจากการเปิด พจนานุกรม เราก็จะจดจำความหมายของศัพท์คำนั้นได้อย่างแม่นยำ ทีนี้ถ้าเรา อ่านเยอะ เราก็จะคุ้นเคยกับคำศัพท์เยอะแยะไปหมด
หรือแม้แต่คำศัพท์ที่เรารู้ความหมายอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยได้พบ ถ้าเราอ่านภาษาอังกฤษเยอะๆ เราก็จะมีโอกาสพบศัพท์คำนี้บ่อยขึ้น ทำให้เราไม่ ลืมความหมายของมันไปนั่นเอง
2. เล่นเกมประเภทฝึกคำศัพท์
มีอยู่หลากหลายเกม เช่น Scrabble, Word Chain, Hangman, Crosswords เป็นต้น เกมพวกนี้จะช่วยกระตุ้นให้เราจดจำและพัฒนาการใช้คำศัพท์ได้เป็น อย่างดี แถมยังให้ความสนุกสนานอีกด้วย เวลาเล่นก็ไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดกับกฎแบบเอา เป็นเอาตาย เล่นเพื่อความสนุกสนาน มันจะได้ไม่เบื่อเร็ว
อย่างเช่นเกม Scrabble ก็แอบเปิดพจนานุกรมไปด้วยก็ได้ จะได้เจอคำศัพท์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ไม่ใช่ใช้แต่คำศัพท์ไม้ตายอย่าง "ant", "red" หรือ "hat"
ปัจจุบันเกมพวกนี้มีให้เล่นฟรีตามเว็บไซต์ต่างๆ มากมายจนเล่นกันไม่หมด ลอง เข้าไปในเว็บไซต์สืบค้นอย่าง Google แล้วค้นหาด้วยชื่อเกมที่ต้องการ
ก็จะได้ผลการค้นหาออกมายาวเหยียด ยกตัวอย่างเช่น
http://thepixiepit.co.uk/scrabble (เกม Scrabble)
http://www.isc.ro (เกม Scrabble)
http://www.wordchains.com (เกม Word Chain)
http://www.buzzardgames.com/word_chain (เกม Word Chain)
http://www.hangman.no (เกม Hangman)
https://www.myfirstbrain.com/main_view.aspx?ID=54989 (เกม Hangman)
http://www.boatloadpuzzles.com/playcrossword (เกม Crosswords)
http://thinks.com/daily_crossword.htm (เกม Crosswords)
3. หัดใช้พจนานุกรมให้ติดเป็นนิสัย
อุปกรณ์สำคัญของการเรียนคำศัพท์ก็คือ "พจนานุกรม" Dictionary) มีทั้งแบบอังกฤษ-ไทย, อังกฤษ-อังกฤษ และไทย-อังกฤษ ถ้ามีทุนทรัพย์พอก็ซื้อให้ครบทุกแบบเลยยิ่ง ดี หรืออาจจะเลือกแค่หนึ่งจากสองแบบแรกก็ได้
ปัจจุบันมีพจนานุกรมของหลายสำนักวางขายอยู่ในท้องตลาด การเลือกซื้อควรเลือก เล่มที่มีคำศัพท์จำนวนมาก แต่ต้องเป็นคำศัพท์ที่พบบ่อย ไม่ใช่เอาคำศัพท์ ประหลาดๆ ที่แทบไม่เคยพบในชีวิตประจำวัน มาใส่ให้เล่มมันหนาๆ เข้าไว้ นอกจากนั้นก็ต้องเลือกที่อธิบายความหมายของคำศัพท์ได้อย่างชัดเจน
มีคำเหมือน มีคำตรงข้าม มีภาพประกอบ ถ้ามีตัวอย่างการใช้คำศัพท์ด้วยยิ่งดี
เป็นไปได้ควรมีพจนานุกรมคู่ใจเล่มหนึ่งติดตัวไปไหนมาไหนด้วย อาจจะไม่ต้อง เล่มหนามากเพื่อความสะดวกในการพกพาและหยิบฉวยขึ้นมาใช้ เมื่ออุตส่าห์พกไป แล้วก็ควรหยิบขึ้นมาใช้ให้บ่อยๆ จนติดเป็นนิสัยด้วย เวลาอ่านภาษาอังกฤษเจอ คำศัพท์ที่ไม่รู้ความหมาย ก็หยิบพจนานุกรมคู่ใจขึ้นมาเปิดดูความหมายทันที
จะได้ไม่ค้างคาใจ
มีผู้รู้หลายท่านแนะนำว่า ควรใช้พจนานุกรมแบบอังกฤษ-อังกฤษ จะดีกว่าแบบ อังกฤษ-ไทย เพราะแบบหลังนั้นเหมือนมีคนทำอาหารใส่จานมาวางไว้ให้ตรงหน้า
เรามีหน้าที่แค่ตักใส่ปากรับประทาน ทำให้ไม่ค่อยรู้คุณค่าของอาหาร ไม่นานก็ลืมรสชาติ แต่พจนานุกรมแบบอังกฤษ-อังกฤษ เราจะต้องมาแปลความหมายของ ความหมายอีกต่อหนึ่ง ซึ่งแม้จะต้องใช้ความพยายามมากกว่าเดิม แต่ก็ช่วยให้ เราจดจำความหมายของคำศัพท์ได้ดีกว่าด้วย
4. จดบันทึกคำศัพท์ใหม่ไว้ทบทวน
เมื่อพบคำศัพท์ใหม่ควรจดคำศัพท์และความหมายใส่ในกระดาษไว้ทบทวนกันลืมในภาย หลัง ได้หลายๆ แผ่นเข้าก็เย็บรวมเป็นเล่ม กลายเป็น "สมุดจดคำศัพท์" ที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือของเราเอง ข้อดีที่เห็นได้ชัดของการทำสมุดจดคำศัพท์ ส่วนตัวก็คือ ช่วยให้เราจำคำศัพท์ได้แม่นขึ้น เพราะขณะที่เราท่องคำศัพท์ตาม ปกติ จะใช้ทักษะเพียงด้านเดียวคือ การอ่าน แต่เมื่อเราจดคำศัพท์ลงในกระดาษ เราจะต้องใช้ทั้งทักษะการอ่านและ การเขียน ทำให้สมาธิของเราจดจ่ออยู่กับคำศัพท์นั้นมากขึ้น จึงจำได้แม่นขึ้น ด้วย อีกประการหนึ่งก็คือ การหยิบสมุดจดคำศัพท์ขึ้นมาทบทวนในยามว่าง เป็นการฆ่า เวลาอย่างคนฉลาด
ดีกว่าฆ่าเวลาด้วยการส่ง BB ไปเม้าท์กับเพื่อนเรื่องไร้สาระเป็นไหนๆ
5. ใช้เพื่อนเป็นตัวช่วย
บางครั้งนั่งท่องศัพท์คนเดียวนานๆ เข้ามันก็เบื่อ ลองหาเพื่อนสักหนึ่งคนหรือหนึ่งกลุ่มที่มีอุดมการณ์เดียวกัน กับเรา คือ อยากฝึกภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้น แล้วเอาสมุดจดคำศัพท์ของตัวเองขึ้นมา ผลัดกัน ถาม-ตอบความหมายของคำศัพท์ นอกจากจะช่วยให้จำคำศัพท์ได้อย่างสนุกสนาน แล้ว ในกรณีที่เจอคำศัพท์ซึ่งเราจดความหมายไว้ไม่ตรงกับของเพื่อน ก็ไปเปิด ดูความหมายที่แท้จริงในพจนานุกรม ถือเป็นการเช็คความถูกต้องไปด้วยในตัว
Thank : http://blog.eduzones.com/anisada/79010
ค้นหาบล็อกนี้
วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555
โครงสร้างของ Tense
โครงสร้างของ Tense ทั้ง 12
- Present Simple (S. + V.1)
- Present Continuous (S. + is/am/are + V.ing)
- Present Perfect (S. + has/have + V.3)
- Present Perfect Continuous (S. + has/have been + V.ing)
- Past Simple (S. + V.2)
- Past Continuous (S. + was/were + V.ing)
- Past Perfect (S. + had + V.3)
- Past Perfect Continuous (S. + had been + V.ing)
- Future Simple (S. + will/shall + V.1)
- Future Continuous (S. + will/shall be + V.ing)
- Future Perfect (S. + will have + V.3)
- Future Perfect Continuous (S. + will/shall have been + V.ing)
วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554
Nouns เอกพจน์/พหูพจน์ (Singular/Plural)
เรามาเรียนรู้เรือง Nouns พร้อมทำแบบฝึกหัดกันนะคะ
Plactice.
Nouns
เอกพจน์/พหูพจน์ (Singular/Plural)
ดังที่ได้กล่าวในบทเรื่อง Nouns แล้วว่า คำนามในภาษาอังกฤษที่เกียวกับการนับมี 2 ชนิดคือ
นามนับได้ ( countable nouns ) สามารถเป็นเอกพจน์ ( Singular ) หรือ พหูพจน์ ( Plural ) ได้
นามนับไม่ได้ ( uncountable nouns ) โดยทั่วไปเป็นเอกพจน์ ( Singular ) แต่มีข้อยกเว้นสำหรับบางคำสามารถทำให้เป็นพหูพจน์ ได้
ในบทนี้จะกล่าวถึงการทำให้เป็นพหูพจน์ของทั้งนามนับได้และนามนับไม่ได้ ซึ่งมีหลักกว้างๆคือ
นามนับได้ ส่วนใหญ่ทำให้เป็นพหูพจน์โดยการเติม - s ที่ท้ายคำ
นามนับไม่ได้โดยทั่วไป ทำเป็นพหูพจน์ไม่ได้ ( แต่มีข้อยกเว้น ซึ่งทำให้กลายเป็นคำนามที่ใช้อย่างนามนับได้ เช่น wine ปกติเป็นนามนับไม่ได้ แต่สามารถนำมาใช้แบบนับได้คือ wines หมายถึง เหล้าองุ่นชนิดต่างๆ )
หลักโดยทั่วไปของการทำให้เป็นพหูพจน์ มีดังนี้
1. โดยทั่วไปเติม s หลังนามเอกพจน์ เช่น
Singular Plural Singular Plural
apple ( แอปเปิล ) apples stamp ( แสตมป์ ) stamps
comb ( หวี ) combs face (หน้า ) faces
computer ( คอมพิวเตอร์ ) computers
2. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x, z ให้เติม es เช่น
Singular Plural Singular Plural
glass ( แก้ว ) glasses dish ( จาน ) dishes
bus ( รถประจำทาง ) buses box ( กล่อง ) boxes
church ( โบสถ์ ) churches quiz ( การสอบสั้นๆ ) quizes
3. คำนามที่ลงท้ายด้วย o และหน้า o เป็นพยัญชนะ เติม es เช่น
Singular Plural Singular Plural
tomato ( มันฝรั่ง ) tomatoes echo ( เสียงก้อง ) echoes
potato ( มันฝรั่ง ) potatoes torpedo ( ตอร์ปิโด ) torpedoes
hero ( วีรบุรุษ ) heroes
ข้อยกเว้น คำนามที่ลงท้ายด้วย o บางคำที่ข้างหน้าเป็นสระหรือพยัญชนะ เติม s เช่น
Singular Plural Singular Plural
auto (รถยนต์ ) autos casino ( บ่อนการพนัน ) casinos
bamboo ( ไม้ไผ่ ) bamboos piano ( เปียโน ) pianos
studio (ห้องสตูดิโอ ) studios tobacco ( ยาสูบ ) tobaccos
kangaroo ( จิงโจ้ ) kangaroos kilo ( กิโล ) kilos
ข้อยกเว้น นามที่ลงท้ายด้วย o บางคำจะเติม s หรือ es ได้ทั้งสองอย่าง
Singular Plural Singular Plural
cargo ( สินค้า ) cargos,cargoes buffalo ( ควาย ) buffalos, buffaloes
mango ( มะม่วง) mangos,mangoes motto ( ภาษิตประจำใจ ) mottos,mottoes
mosquito ( ยุง ) mosquitos, mosquitoes zero ( เลขศูนย์ ) zeros, zeroes
4. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น
Singular Plural Singular Plural
army ( กองทัพ ) armies lady ( สุภาพสตรี ) ladies
family ( ครอบครัว ) families library ( ห้องสมุด ) libraries
baby ( เด็ก ) babies
ถ้าหน้า y เป็นสระ ให้เติมเพียง s
Singular Plural Singular Plural
toy ( ของเล่น )
boy ( เด็กชาย )
key ( กุญแจ )
day ( วัน ) toys
boys
keys
days monkey ( ลิง )
storey ( ชั้น )
valley ( หุบเขา ) monkeys
storeys
valleys
5. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe เปลี่ยนให้เป็น v แล้วเติม es เช่น
Singular Plural Singular Plural
calf ( ลูกวัว) calves wolf ( หมาป่า ) wolves
thief ( ขโมย ) thieves life ( ชีวิต ) lives
knife ( มีด ) knives wife ( ภรรยา ) wives
half ( ครึ่ง ) halves
ยกเว้นคำต่อไปนี้เติม s เท่านั้น
Singular Plural Singular Plural
belief ( ความเชื่อถือ) beliefs dwarf ( คนแคระ ) dwarfs
brief ( สำนวนคดีความ ) briefs grief ( ความเศร้าโศก ) griefs
chef ( หัวหน้าพ่อครัว ) chefs gulf ( อ่าว ) gulfs
chief ( หัวหน้า) chiefs reef (หินโสโครก ) reefs
cliff ( หน้าผา ) cliffs safe ( ตุ้นิรภัย) safes
คำต่อไปนี้ทำได้ 2 แบบคือ
Singular Plural Singular Plural
scarf ( ผ้าพันคอ ) scarfs,scarves roof ( หลังคา ) roofs,rooves
staff (คณะบุคคล ) staffs,staves wharf (ท่าเรือ ) wharfs ,wharves
ุ6. ทำเป็นนามพหุพจน์โดยเปลี่ยนภายในคำ
Singular Plural Singular Plural
goose ( ห่าน ) geese man ( ผู้ชาย ) men
louse ( เหา,หมัด ) lice woman (ผู้หญิง ) women
mouse ( หนู ) mice ox ( วัว ) oxen
foot ( เท้า ) feet child ( เด็ก ) children
tooth ( ฟัน ) teeth
7. คำต่อไปนี้เหมือนกันทั้งรูปพหูพจน์ และ เอกพจน์
Singular &
Plural Singular &
Plural Singular &
Plural Singular &
Plural
aircraft ( เครื่องบิน ) herring ( ปลาเฮอริง ) deer ( กวาง ) species ( ชนิด )
carp ( ปลาคาร์พ ) salmon ( ปลาซาลมอน ) bison ( วัวกระทิง ) corps ( กองร้อย )
fish ( ปลา ) mackerel ( ปลาแมคเคอเรล ) shellfish( สัตว์น้ำที่มีเปลือก ) series ( ชุด )
sheep ( แกะ ) trout ( ปลาเทร้า ) barracks ( โรงเรือนทหาร )
8. คำนามต่อไปนี้มีรูปพหูพจน์แต่ใช้อย่างเอกพจน์
economics (วิชา เศรษฐศาสตร์ ) civics ( วิชาหน้าที่พลเมือง ) works ( โรงงาน ผลงาน )
ethics (วิชาศีลธรรม) mumps ( คางทูม) news ( ข่าว )
mathematics ( คณิตศาสตร์ ) teens ( คนวัย 13 - 19 ปี ) ashes ( ขี้เถ้า )
mechanics ( กลสาสตร์ ) twenties ( คนวัย 20-29 ) measles ( หัด )
politics ( การเมือง ) thirties ( คนวัย 30 - 39 ) tactics ( กลยุทธ )
sciences ( วิทยาศาสตร์ ) headquarters ( สำนักงานใหญ่) means ( วิธี )
statistics (วิชาสถิติ ) whereabouts ( ที่อยู่ )
เช่น Mathematics is my favorite subject.
Measles is still a fairly serious childhood disease in some countries.
9. คำนามต่อไปนี้มีรูปพหูพจน์และใช้อย่างความหมายพหูพจน์ เช่น
arms ( อาวุธ ) pajamas ( ชุดนอน ) thanks ( ความขอบคุณ )
assets (ทรัพย์สิน ) scissors ( กรรไกร ) shorts ( กางเกงขาสั้น )
auspices ( ฤกษ์ ) drawers ( ลิ้นชัก ) wages ( ค่าจ้าง )
biceps ( กล้ามเนื้อแขน ) sheers ( กรรไกรยาว ) intestines ( ลำใส้ใหญ่ )
clothes ( เสื้อผ้า ) suds ( ฟองสบู่ ) goods ( สินค้า )
contents ( สารบัญ ) spectacles ( แว่นตา ) eyeglasses ( แว่นตา )
customs ( ภาษีศุลกากร ) earnings ( รายได้ ) trousers,pants ( กางเกง )
jeans ( กางเกงจีนส์ ) binoculars ( กล้องส่องทางไกล ) sandals ( รองเท้าแตะ )
remains ( ซากที่เหลืออยู่ ) credentials ( หนังสือรับรอง )
เช่น My trousers are too long.
The company's earings have increased for the last five years.
10. นามต่อไปนี้มีรูปเป็นเอกพจน์ แต่ใช้ในความหมายพหูพจน์
people( ประชาชน ) cattle ( ปศุสัตว์ ) youth ( คนหนุ่มสาว )
police ( ตำรวจ ) majority ( คนส่วนมาก ) swine ( สัตว์พันธุ์หมู รวมทั้งหมูป่า)
poultry ( สัตว์ปีก ) minority ( คนส่วนน้อย )
clergy ( พระฝรั่ง ) offspring ( ลูก )
เช่น They are nice people.
The police are looking for the Olympic Park bomber.
11. นามต่อไปนี้ เมื่อเป็นเอกพจน์มีความหมายอย่างหนึ่ง และเมื่อเป็นพหูพจน์มีความหมายอีกอย่างหนึ่ง
Singular Plural
advice ( คำแนะนำ ) advices ( รายงาน )
air ( อากาศ ) airs (การวางท่าหยิ่ง )
color ( สี ) colors ( ธงประจำกองทหาร ธงชาติ )
compass ( เข็มทิศ ) compasses ( วงเวียน )
content ( ความพอใจ ) contents ( สารบัญ )
copper ( ทองแดง ) coppers ( เหรียญทองแดง )
custom ( ธรรมเนียม ประเพณี ) customs ( ศุลกากร )
draught ( กระแสลม ) draughts ( หมากรุกฝรั่ง )
dump (ที่ทิ้งขยะ ) dumps ( ความหดหู่ )
effect ( ผลกระทบ ) effects ( ทรัพย์สิน )
force ( อิทธิพล ) forces ( กองทัพ )
good ( ดี ) goods ( สินค้า )
ground ( ดิน ) grounds ( เหตุผล )
iron ( เหล็ก ) irons ( โซ่ตรวน )
manner ( วิธี อาการ) manners ( มารยาท )
minute ( นาที ) minutes ( รายงานการประชุม )
physic ( ยา ) physics ( วิชาฟิสิกส์ )
quarter ( หนึ่งในสี่ ) quarters ( ที่อยู่อาศัย )
return ( การกลับ ) returns ( ผลกำไร ผลตอบแทน )
sand ( ทราย ) sands ( หาดทราย )
spirit ( น้ำใจนักกีฬา,วิญญาณ ) spirits ( เหล้า ปีศาจ )
water ( น้ำ ) waters ( แหล่งน้ำ น่านน้ำ )
work ( งาน ผลงาน ) works ( โรงงาน )
12, คำนามที่มาจากภาษาอื่น ซึ่งภาษาอังกฤษยืมมาใช้
Singular Plural
มาจากภาษาลาติน เช่น
agendum (ระเบียบวาระ ) agenda
alumnus ( ศิษย์เก่าชาย ) alumni
appendix (ไส้ติ่ง,ภาคผนวก ) appendixes ( ไส้ติ่ง )
appendices ( ภาคผนวก )
bacterium ( แบคทีเรีย ) bacteria
curriculum ( หลักสูตร ) curricula
fungus ( รา ) fungi
focus ( จุดรวม ) foci, focuses
genius ( อัจฉริยะ ) genii
index ( ดรรชนี เลขชี้กำลัง) indexes ( ดรรชนี ) fungi
matrix ( เบ้าแบบ ) matrices
maximum ( มากที่สุด ) indices ( เลขชี้กำลัง )maxima
medium ( สื่อ ) media ( สื่อมวลชน )
mediums ( ตัวกลาง )
memorandum ( บันทึกช่วยจำ ) memoranda
ovum ( รังไข่ ) ova
radius ( รัศมี ) radii
spectrum ( แสงสเปคตรัม ) spectra
มาจากภาษากรีก เช่น
axis ( แกน ) axes
analysis ( บทวิเคราะห์ ) analyses
basis ( หลักเกณฑ์ ) bases
crisis ( วิกฤตการณ์ ) crises
criterion ( สิ่งที่เป็นเกณฑ์ ) criteria
diagnosis ( ข้อวินิจฉัย) diagnoses
parenthesis ( วงเล็บ) parentheses
phenomenon ( ปรากฏการณ์ ) phenomena
hypothesis ( สมมุติฐาน ) hypotheses
synthesis ( บทสังเคราะห์ ) syntheses
synopsis ( บทสรุป ) synopsesPlactice.
1 Which one is a plural noun? (นามพหูพจน์)
a. bench
b. dress
c. oxen
d. glass
2 Which one is a singular noun?(เอกพหูพจน์)
a. mice
b. workmen
c. leaf
d. children
3 Which one is a countable noun? (นามนับได้)
a. salf
b. stamp
c. bread
d. sugar
4 Which one is a uncountable noun? (นามนับไม่ได้)
a. handbag
b. knife
c. money
d. broom
5 That is.................................
a. a handkerchief
b. handkerchiefs
c. handkerchieves
d. handkerchief
6 Is...................................... ?
a. an monkey that
b. monkey that
c. that a monkey
d. that monkey
7 What's this?
a. It's a mosquitos.
b. It's a mosquito.
c. Yes, it is.
d. They're mosquitoes.
8 Those are..............................
a. watches
b. heros
c. thiefs
d. yoyo
9 There is........................water in the glass.
a. some
b. a
c. the
d. any
10 There ....................three children in the picture.
a. has
b. have
c. are
d. is
11 We......................thirsty
a. are
b. has
c. have
d. is
12 Pranee.........................long hair and black eyes.
a. are
b. is
c. have
d. has
13 I............................ two dogs.
a. am
b. do
c. have
d. has
14 Your.................are white.
a. nose
b. hair
c. lips
d. teeth
15 How...................birds are there in the cage?
a. much
b. many
c. any
d. some
16 How................... is this shirt?
a. much
b. old
c. tall
d. many
17 Suda's house is................. Sukhumwit Road.
a. at
b. in
c. of
d. on
18 Santi lives.................. Bangkok.
a. at
b. on
c. with
d. in
19 We have lunch ................... half past eleven.
a. at
b. the
c. on
d. in
20 Peter and Tom are................... in the park.
a. to play
b. plays
c. playing
d. play
......................
Answer
1. c
2. a
3. d
4. d
5. a
6. d
7. c
8. d
9. d
10. d
11. c
12. d
13. a
14. a
15. a
16. b
17. c
18. a
19. c
20. a
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)