ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ

อุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่งในการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาแม่ ก็คือ การนึกคำศัพท์ที่เหมาะสมไม่ออก หรือแปลความหมายของคำศัพท์ที่พบไม่ได้ เพราะ ถึงจะรู้หลักแกรมม่าแน่นปึ๊ก แต่คำศัพท์ไม่ได้ ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน แล้วทีนี้จะทำอย่างไรกันดี ถึงจะจำคำศัพท์ได้แม่นแบบ ติดแน่นฝังลึกอยู่ในสมองของเรา เคล็ดลับมีอยู่ 6 ประการ ก็คือ

1. ขยันอ่านภาษาอังกฤษ
อ่านมันให้หมด อะไรที่เป็นภาษาอังกฤษ อ่านได้หมด ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ บทความ เว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร การ์ตูน ใบปลิว ป้ายโฆษณา  ไปจนกระทั่งรอยจารึกข้างกำแพงห้องน้ำ (ถ้าคนมือบอนเขียนเป็นภาษาอังกฤษนะ)  เรียกได้ว่าขยันอ่านอะไรที่มันเป็นภาษาอังกฤษไปเรื่อยๆ

อาจเกิดคำถามว่า จะอ่านไปให้มันได้อะไร ถ้ามันไม่รู้ความหมาย คำตอบคือ ได้ความคุ้นเคย ยิ่งอ่านมากก็จะยิ่งเจอคำศัพท์มาก เจอคำศัพท์ที่เราเคยเจอมา แล้วบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดคุ้นเคยกับศัพท์คำนั้น (ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ความหมายนั่นหล่ะ) จนเมื่อวันหนึ่งเรารู้ความหมายของ ศัพท์คำนั้น ไม่ว่าจะด้วยการเดาจากความหมายโดยรวมของประโยค หรือจากการเปิด พจนานุกรม เราก็จะจดจำความหมายของศัพท์คำนั้นได้อย่างแม่นยำ ทีนี้ถ้าเรา อ่านเยอะ  เราก็จะคุ้นเคยกับคำศัพท์เยอะแยะไปหมด
หรือแม้แต่คำศัพท์ที่เรารู้ความหมายอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยได้พบ ถ้าเราอ่านภาษาอังกฤษเยอะๆ เราก็จะมีโอกาสพบศัพท์คำนี้บ่อยขึ้น ทำให้เราไม่ ลืมความหมายของมันไปนั่นเอง

2. เล่นเกมประเภทฝึกคำศัพท์
มีอยู่หลากหลายเกม เช่น Scrabble, Word Chain, Hangman, Crosswords เป็นต้น เกมพวกนี้จะช่วยกระตุ้นให้เราจดจำและพัฒนาการใช้คำศัพท์ได้เป็น อย่างดี แถมยังให้ความสนุกสนานอีกด้วย เวลาเล่นก็ไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดกับกฎแบบเอา เป็นเอาตาย เล่นเพื่อความสนุกสนาน มันจะได้ไม่เบื่อเร็ว
อย่างเช่นเกม Scrabble ก็แอบเปิดพจนานุกรมไปด้วยก็ได้ จะได้เจอคำศัพท์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ไม่ใช่ใช้แต่คำศัพท์ไม้ตายอย่าง "ant", "red" หรือ "hat"
ปัจจุบันเกมพวกนี้มีให้เล่นฟรีตามเว็บไซต์ต่างๆ มากมายจนเล่นกันไม่หมด ลอง เข้าไปในเว็บไซต์สืบค้นอย่าง Google แล้วค้นหาด้วยชื่อเกมที่ต้องการ
ก็จะได้ผลการค้นหาออกมายาวเหยียด ยกตัวอย่างเช่น

http://thepixiepit.co.uk/scrabble (เกม Scrabble)
http://www.isc.ro (เกม Scrabble)
http://www.wordchains.com (เกม Word Chain)
http://www.buzzardgames.com/word_chain (เกม Word Chain)
http://www.hangman.no (เกม Hangman)
https://www.myfirstbrain.com/main_view.aspx?ID=54989 (เกม Hangman)
http://www.boatloadpuzzles.com/playcrossword (เกม Crosswords)
http://thinks.com/daily_crossword.htm (เกม Crosswords)

3. หัดใช้พจนานุกรมให้ติดเป็นนิสัย

อุปกรณ์สำคัญของการเรียนคำศัพท์ก็คือ "พจนานุกรม"  Dictionary) มีทั้งแบบอังกฤษ-ไทย, อังกฤษ-อังกฤษ และไทย-อังกฤษ ถ้ามีทุนทรัพย์พอก็ซื้อให้ครบทุกแบบเลยยิ่ง ดี หรืออาจจะเลือกแค่หนึ่งจากสองแบบแรกก็ได้
ปัจจุบันมีพจนานุกรมของหลายสำนักวางขายอยู่ในท้องตลาด การเลือกซื้อควรเลือก เล่มที่มีคำศัพท์จำนวนมาก แต่ต้องเป็นคำศัพท์ที่พบบ่อย ไม่ใช่เอาคำศัพท์ ประหลาดๆ ที่แทบไม่เคยพบในชีวิตประจำวัน มาใส่ให้เล่มมันหนาๆ เข้าไว้ นอกจากนั้นก็ต้องเลือกที่อธิบายความหมายของคำศัพท์ได้อย่างชัดเจน
มีคำเหมือน มีคำตรงข้าม มีภาพประกอบ ถ้ามีตัวอย่างการใช้คำศัพท์ด้วยยิ่งดี
เป็นไปได้ควรมีพจนานุกรมคู่ใจเล่มหนึ่งติดตัวไปไหนมาไหนด้วย อาจจะไม่ต้อง เล่มหนามากเพื่อความสะดวกในการพกพาและหยิบฉวยขึ้นมาใช้ เมื่ออุตส่าห์พกไป แล้วก็ควรหยิบขึ้นมาใช้ให้บ่อยๆ จนติดเป็นนิสัยด้วย เวลาอ่านภาษาอังกฤษเจอ คำศัพท์ที่ไม่รู้ความหมาย ก็หยิบพจนานุกรมคู่ใจขึ้นมาเปิดดูความหมายทันที
จะได้ไม่ค้างคาใจ
มีผู้รู้หลายท่านแนะนำว่า ควรใช้พจนานุกรมแบบอังกฤษ-อังกฤษ จะดีกว่าแบบ อังกฤษ-ไทย เพราะแบบหลังนั้นเหมือนมีคนทำอาหารใส่จานมาวางไว้ให้ตรงหน้า
เรามีหน้าที่แค่ตักใส่ปากรับประทาน ทำให้ไม่ค่อยรู้คุณค่าของอาหาร ไม่นานก็ลืมรสชาติ แต่พจนานุกรมแบบอังกฤษ-อังกฤษ เราจะต้องมาแปลความหมายของ ความหมายอีกต่อหนึ่ง ซึ่งแม้จะต้องใช้ความพยายามมากกว่าเดิม แต่ก็ช่วยให้ เราจดจำความหมายของคำศัพท์ได้ดีกว่าด้วย

4. จดบันทึกคำศัพท์ใหม่ไว้ทบทวน
เมื่อพบคำศัพท์ใหม่ควรจดคำศัพท์และความหมายใส่ในกระดาษไว้ทบทวนกันลืมในภาย หลัง ได้หลายๆ แผ่นเข้าก็เย็บรวมเป็นเล่ม กลายเป็น "สมุดจดคำศัพท์" ที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือของเราเอง ข้อดีที่เห็นได้ชัดของการทำสมุดจดคำศัพท์ ส่วนตัวก็คือ ช่วยให้เราจำคำศัพท์ได้แม่นขึ้น เพราะขณะที่เราท่องคำศัพท์ตาม ปกติ จะใช้ทักษะเพียงด้านเดียวคือ การอ่าน แต่เมื่อเราจดคำศัพท์ลงในกระดาษ เราจะต้องใช้ทั้งทักษะการอ่านและ การเขียน ทำให้สมาธิของเราจดจ่ออยู่กับคำศัพท์นั้นมากขึ้น จึงจำได้แม่นขึ้น ด้วย อีกประการหนึ่งก็คือ การหยิบสมุดจดคำศัพท์ขึ้นมาทบทวนในยามว่าง เป็นการฆ่า เวลาอย่างคนฉลาด
ดีกว่าฆ่าเวลาด้วยการส่ง BB ไปเม้าท์กับเพื่อนเรื่องไร้สาระเป็นไหนๆ

5. ใช้เพื่อนเป็นตัวช่วย
บางครั้งนั่งท่องศัพท์คนเดียวนานๆ เข้ามันก็เบื่อ ลองหาเพื่อนสักหนึ่งคนหรือหนึ่งกลุ่มที่มีอุดมการณ์เดียวกัน กับเรา คือ อยากฝึกภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้น แล้วเอาสมุดจดคำศัพท์ของตัวเองขึ้นมา ผลัดกัน ถาม-ตอบความหมายของคำศัพท์ นอกจากจะช่วยให้จำคำศัพท์ได้อย่างสนุกสนาน แล้ว ในกรณีที่เจอคำศัพท์ซึ่งเราจดความหมายไว้ไม่ตรงกับของเพื่อน ก็ไปเปิด ดูความหมายที่แท้จริงในพจนานุกรม ถือเป็นการเช็คความถูกต้องไปด้วยในตัว

Thank :  http://blog.eduzones.com/anisada/79010

Skip : เป็นการทำงานพิธีกรครั้งแรก คอยติดตามชมนะคะ ว่า เราทำรายการอะไรกัน
Thank : Dream World & Teacher Saifon

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

โครงสร้างของ Tense

โครงสร้างของ Tense ทั้ง 12

Present Tense
  1. Present Simple (S. + V.1)
  2. Present Continuous (S. + is/am/are + V.ing)
  3. Present Perfect (S. + has/have + V.3)
  4. Present Perfect Continuous (S. + has/have been + V.ing)
Past Tense
  1. Past Simple (S. + V.2)
  2. Past Continuous (S. + was/were + V.ing)
  3. Past Perfect (S. + had + V.3)
  4. Past Perfect Continuous (S. + had been + V.ing)
Futere Tense
  1. Future Simple (S. + will/shall + V.1)
  2. Future Continuous (S. + will/shall be + V.ing)
  3. Future Perfect (S. + will have + V.3)
  4. Future Perfect Continuous (S. + will/shall have been + V.ing)

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Nouns เอกพจน์/พหูพจน์ (Singular/Plural)

เรามาเรียนรู้เรือง Nouns พร้อมทำแบบฝึกหัดกันนะคะ
                Nouns
เอกพจน์/พหูพจน์ (Singular/Plural)
 ดังที่ได้กล่าวในบทเรื่อง Nouns แล้วว่า คำนามในภาษาอังกฤษที่เกียวกับการนับมี  2 ชนิดคือ

    นามนับได้  ( countable nouns )  สามารถเป็นเอกพจน์ ( Singular ) หรือ พหูพจน์ ( Plural ) ได้
    นามนับไม่ได้ ( uncountable nouns )  โดยทั่วไปเป็นเอกพจน์ ( Singular ) แต่มีข้อยกเว้นสำหรับบางคำสามารถทำให้เป็นพหูพจน์ ได้

  ในบทนี้จะกล่าวถึงการทำให้เป็นพหูพจน์ของทั้งนามนับได้และนามนับไม่ได้  ซึ่งมีหลักกว้างๆคือ

    นามนับได้ ส่วนใหญ่ทำให้เป็นพหูพจน์โดยการเติม - s ที่ท้ายคำ
    นามนับไม่ได้โดยทั่วไป ทำเป็นพหูพจน์ไม่ได้ ( แต่มีข้อยกเว้น ซึ่งทำให้กลายเป็นคำนามที่ใช้อย่างนามนับได้ เช่น wine ปกติเป็นนามนับไม่ได้ แต่สามารถนำมาใช้แบบนับได้คือ  wines หมายถึง เหล้าองุ่นชนิดต่างๆ )

  หลักโดยทั่วไปของการทำให้เป็นพหูพจน์ มีดังนี้

  1. โดยทั่วไปเติม s หลังนามเอกพจน์ เช่น

    Singular            Plural     Singular                Plural
    apple ( แอปเปิล )            apples   stamp ( แสตมป์ )                stamps
    comb ( หวี )      combs   face (หน้า )           faces
    computer ( คอมพิวเตอร์ )            computers                           

 2. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x, z ให้เติม  es เช่น

    Singular            Plural     Singular                Plural
    glass ( แก้ว )     glasses                  dish ( จาน )          dishes
    bus ( รถประจำทาง )       buses    box ( กล่อง )        boxes
    church ( โบสถ์ )              churches              quiz ( การสอบสั้นๆ )           quizes

 3. คำนามที่ลงท้ายด้วย และหน้า o เป็นพยัญชนะ เติม es เช่น

    Singular            Plural     Singular                Plural
    tomato ( มันฝรั่ง )           tomatoes            echo ( เสียงก้อง )                echoes
    potato ( มันฝรั่ง )            potatoes              torpedo ( ตอร์ปิโด )           torpedoes
    hero ( วีรบุรุษ )                heroes                  

    ข้อยกเว้น  คำนามที่ลงท้ายด้วย o บางคำที่ข้างหน้าเป็นสระหรือพยัญชนะ เติม s เช่น
    Singular            Plural     Singular                Plural
    auto (รถยนต์ )                 autos     casino ( บ่อนการพนัน )      casinos
    bamboo ( ไม้ไผ่ )            bamboos             piano ( เปียโน )   pianos
    studio (ห้องสตูดิโอ )       studios                 tobacco ( ยาสูบ )               tobaccos
    kangaroo ( จิงโจ้ )           kangaroos           kilo ( กิโล )            kilos

    ข้อยกเว้น นามที่ลงท้ายด้วย o บางคำจะเติม  s หรือ es ได้ทั้งสองอย่าง
    Singular            Plural     Singular                Plural
    cargo ( สินค้า )                 cargos,cargoes buffalo ( ควาย )                 buffalos, buffaloes
    mango ( มะม่วง)             mangos,mangoes            motto ( ภาษิตประจำใจ )   mottos,mottoes
    mosquito ( ยุง )              mosquitos, mosquitoes                zero ( เลขศูนย์ )   zeros, zeroes

 4. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน  y เป็น i แล้วเติม es เช่น

    Singular            Plural     Singular                Plural
    army ( กองทัพ )               armies lady ( สุภาพสตรี )                ladies
    family ( ครอบครัว )        families                library ( ห้องสมุด )              libraries
    baby ( เด็ก )     babies                    

    ถ้าหน้า y เป็นสระ ให้เติมเพียง s
    Singular            Plural     Singular                Plural
    toy ( ของเล่น )
    boy ( เด็กชาย )
    key ( กุญแจ )
    day ( วัน )          toys
    boys
    keys
    days   monkey ( ลิง )
    storey ( ชั้น )
    valley ( หุบเขา )               monkeys
    storeys
    valleys

 5. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe เปลี่ยนให้เป็น v แล้วเติม es เช่น

    Singular            Plural     Singular                Plural
    calf ( ลูกวัว)      calves    wolf ( หมาป่า )    wolves
    thief ( ขโมย )   thieves                 life ( ชีวิต )            lives
    knife ( มีด )      knives   wife ( ภรรยา )     wives
    half ( ครึ่ง )        halves                    

    ยกเว้นคำต่อไปนี้เติม s เท่านั้น
    Singular            Plural     Singular                Plural
    belief ( ความเชื่อถือ)      beliefs dwarf ( คนแคระ )               dwarfs
    brief ( สำนวนคดีความ )                briefs    grief  ( ความเศร้าโศก )      griefs
    chef ( หัวหน้าพ่อครัว )    chefs     gulf ( อ่าว )           gulfs
    chief ( หัวหน้า)                chiefs    reef (หินโสโครก )                reefs
    cliff ( หน้าผา ) cliffs       safe ( ตุ้นิรภัย)      safes

    คำต่อไปนี้ทำได้ 2 แบบคือ
    Singular            Plural     Singular                Plural
    scarf ( ผ้าพันคอ )            scarfs,scarves    roof  ( หลังคา )    roofs,rooves
    staff (คณะบุคคล )          staffs,staves      wharf (ท่าเรือ )    wharfs ,wharves

 ุ6. ทำเป็นนามพหุพจน์โดยเปลี่ยนภายในคำ

    Singular            Plural     Singular                Plural
    goose ( ห่าน ) geese    man ( ผู้ชาย )       men
    louse  ( เหา,หมัด )          lice         woman (ผู้หญิง )                women
    mouse ( หนู )   mice      ox ( วัว )                oxen
    foot ( เท้า )       feet       child ( เด็ก )          children
    tooth ( ฟัน )     teeth                      

 7. คำต่อไปนี้เหมือนกันทั้งรูปพหูพจน์ และ เอกพจน์

    Singular &
    Plural                 Singular &
    Plural                 Singular &
    Plural                 Singular &
      Plural
    aircraft ( เครื่องบิน )       herring ( ปลาเฮอริง )         deer ( กวาง )       species ( ชนิด )
    carp ( ปลาคาร์พ )           salmon ( ปลาซาลมอน )    bison ( วัวกระทิง )               corps ( กองร้อย )
    fish ( ปลา )       mackerel ( ปลาแมคเคอเรล )           shellfish( สัตว์น้ำที่มีเปลือก )            series ( ชุด )
    sheep ( แกะ ) trout ( ปลาเทร้า )               barracks ( โรงเรือนทหาร )                  

 8. คำนามต่อไปนี้มีรูปพหูพจน์แต่ใช้อย่างเอกพจน์

    economics (วิชา เศรษฐศาสตร์ ) civics ( วิชาหน้าที่พลเมือง )                works ( โรงงาน ผลงาน )
    ethics (วิชาศีลธรรม)       mumps ( คางทูม)               news ( ข่าว )
    mathematics ( คณิตศาสตร์ )      teens ( คนวัย 13 - 19  ปี )                 ashes ( ขี้เถ้า )
    mechanics ( กลสาสตร์ )               twenties ( คนวัย 20-29 )                 measles ( หัด )
    politics ( การเมือง )        thirties  ( คนวัย 30 - 39 ) tactics ( กลยุทธ )
    sciences ( วิทยาศาสตร์ )               headquarters  ( สำนักงานใหญ่)     means ( วิธี )
    statistics (วิชาสถิติ )       whereabouts ( ที่อยู่ )        

    เช่น  Mathematics is my favorite subject.
          Measles is still a fairly serious childhood disease in some countries.

 9. คำนามต่อไปนี้มีรูปพหูพจน์และใช้อย่างความหมายพหูพจน์   เช่น

    arms ( อาวุธ ) pajamas  ( ชุดนอน )           thanks ( ความขอบคุณ )
    assets (ทรัพย์สิน )           scissors ( กรรไกร )              shorts ( กางเกงขาสั้น )
    auspices ( ฤกษ์ )            drawers ( ลิ้นชัก )               wages ( ค่าจ้าง )
    biceps ( กล้ามเนื้อแขน )                 sheers ( กรรไกรยาว )        intestines ( ลำใส้ใหญ่ )
    clothes ( เสื้อผ้า )            suds ( ฟองสบู่ )   goods (  สินค้า )
    contents ( สารบัญ )      spectacles ( แว่นตา )         eyeglasses ( แว่นตา )
    customs ( ภาษีศุลกากร )              earnings ( รายได้ )             trousers,pants ( กางเกง )
    jeans ( กางเกงจีนส์ )      binoculars ( กล้องส่องทางไกล )      sandals ( รองเท้าแตะ )
    remains ( ซากที่เหลืออยู่ )             credentials ( หนังสือรับรอง )            

    เช่น   My trousers are too long.
           The company's earings have increased for the last five years.

 10. นามต่อไปนี้มีรูปเป็นเอกพจน์ แต่ใช้ในความหมายพหูพจน์

    people( ประชาชน )        cattle ( ปศุสัตว์ )                 youth ( คนหนุ่มสาว )
    police ( ตำรวจ )              majority ( คนส่วนมาก )    swine ( สัตว์พันธุ์หมู รวมทั้งหมูป่า)
    poultry ( สัตว์ปีก )          minority ( คนส่วนน้อย )     
    clergy ( พระฝรั่ง )            offspring ( ลูก )  

    เช่น  They are nice people.
           The police are looking for the Olympic Park bomber.

 11. นามต่อไปนี้ เมื่อเป็นเอกพจน์มีความหมายอย่างหนึ่ง  และเมื่อเป็นพหูพจน์มีความหมายอีกอย่างหนึ่ง

    Singular            Plural
    advice ( คำแนะนำ )        advices ( รายงาน )
    air ( อากาศ )    airs (การวางท่าหยิ่ง )
    color ( สี )         colors ( ธงประจำกองทหาร ธงชาติ )
    compass ( เข็มทิศ )         compasses ( วงเวียน )
    content ( ความพอใจ ) contents ( สารบัญ )
    copper ( ทองแดง )         coppers ( เหรียญทองแดง )
    custom ( ธรรมเนียม ประเพณี )    customs ( ศุลกากร )
    draught ( กระแสลม )     draughts ( หมากรุกฝรั่ง )
    dump (ที่ทิ้งขยะ )            dumps ( ความหดหู่ )
    effect ( ผลกระทบ )        effects ( ทรัพย์สิน )
    force ( อิทธิพล )              forces ( กองทัพ )
    good ( ดี )         goods ( สินค้า )
    ground ( ดิน ) grounds ( เหตุผล )
    iron ( เหล็ก )     irons ( โซ่ตรวน )
    manner ( วิธี อาการ)     manners ( มารยาท )
    minute ( นาที )                minutes ( รายงานการประชุม )
    physic ( ยา )    physics ( วิชาฟิสิกส์ )
    quarter ( หนึ่งในสี่ )        quarters ( ที่อยู่อาศัย )
    return ( การกลับ )          returns ( ผลกำไร ผลตอบแทน )
    sand ( ทราย )   sands ( หาดทราย )
    spirit ( น้ำใจนักกีฬา,วิญญาณ )    spirits ( เหล้า ปีศาจ )
    water ( น้ำ )     waters ( แหล่งน้ำ น่านน้ำ )
    work ( งาน ผลงาน )       works ( โรงงาน )

 12, คำนามที่มาจากภาษาอื่น ซึ่งภาษาอังกฤษยืมมาใช้

    Singular            Plural
    มาจากภาษาลาติน  เช่น    
    agendum (ระเบียบวาระ )            agenda
    alumnus ( ศิษย์เก่าชาย )               alumni
    appendix (ไส้ติ่ง,ภาคผนวก )        appendixes ( ไส้ติ่ง )
                appendices ( ภาคผนวก )
    bacterium ( แบคทีเรีย )                 bacteria
    curriculum ( หลักสูตร )                 curricula
    fungus ( รา )    fungi
    focus ( จุดรวม )               foci, focuses
    genius ( อัจฉริยะ )          genii
    index ( ดรรชนี เลขชี้กำลัง)              indexes ( ดรรชนี )   fungi
    matrix ( เบ้าแบบ )          matrices 
    maximum ( มากที่สุด ) indices ( เลขชี้กำลัง )maxima
    medium ( สื่อ )                media ( สื่อมวลชน )   
                mediums ( ตัวกลาง )
    memorandum ( บันทึกช่วยจำ ) memoranda
    ovum ( รังไข่ ) ova
    radius  ( รัศมี )                 radii
    spectrum ( แสงสเปคตรัม )           spectra
                 
    มาจากภาษากรีก  เช่น       
    axis  ( แกน )      axes
    analysis ( บทวิเคราะห์ )                 analyses
    basis ( หลักเกณฑ์ )         bases
    crisis ( วิกฤตการณ์ )       crises
    criterion ( สิ่งที่เป็นเกณฑ์ )           criteria
    diagnosis ( ข้อวินิจฉัย)   diagnoses
    parenthesis (  วงเล็บ)   parentheses
    phenomenon ( ปรากฏการณ์ ) phenomena
    hypothesis ( สมมุติฐาน )              hypotheses
    synthesis ( บทสังเคราะห์ )           syntheses
    synopsis ( บทสรุป )       synopses


 Plactice.
 
1              Which one is a plural noun? (นามพหูพจน์)
                a. bench
                b. dress
                c. oxen
                d. glass
2              Which one is a singular noun?(เอกพหูพจน์)
                a. mice
                b. workmen
                c. leaf
                d. children
3              Which one is a countable noun? (นามนับได้)
                a. salf
                b. stamp
                c. bread
                d. sugar
4              Which one is a uncountable noun? (นามนับไม่ได้)
                a. handbag
                b. knife
                c. money
                d. broom
5              That is.................................
                a. a handkerchief
                b. handkerchiefs
                c. handkerchieves
                d. handkerchief

6              Is...................................... ?
                a. an monkey that
                b. monkey that
                c. that a monkey
                d. that monkey
7              What's this?
                a. It's a mosquitos.
                b. It's a mosquito.
                c. Yes, it is.
                d. They're mosquitoes.
8              Those are..............................
                a. watches
                b. heros
                c. thiefs
                d. yoyo
9              There is........................water in the glass.
                a. some
                b. a
                c. the
                d. any
10           There ....................three children in the picture.
                a. has
                b. have
                c. are
                d. is

11           We......................thirsty
                a. are
                b. has
                c. have
                d. is
12           Pranee.........................long hair and black eyes.
                a. are
                b. is
                c. have
                d. has
13           I............................ two dogs.
                a. am
                b. do
                c. have
                d. has
14           Your.................are white.
                a. nose
                b. hair
                c. lips
                d. teeth
15           How...................birds are there in the cage?
                a. much
                b. many
                c. any
                d. some

16           How................... is this shirt?
                a. much
                b. old
                c. tall
                d. many
17           Suda's house is................. Sukhumwit Road.
                a. at
                b. in
                c. of
                d. on
18           Santi lives.................. Bangkok.
                a. at
                b. on
                c. with
                d. in
19           We have lunch ................... half past eleven.
                a. at
                b. the
                c. on
                d. in
20           Peter and Tom are................... in the park.
                a. to play
                b. plays
                c. playing
                d. play


......................
Answer
1. c
2. a
3. d
4. d
5. a
6. d
7. c
8. d
9. d
10. d
11. c
12. d
13. a
14. a
15. a
16. b
17. c
18. a
19. c
20. a